Home » นีรนุช คุณากร (จิ๊บ)

ฉันเป็นผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง ดูภายนอก ฉันดูเหมือนคนปกติทั่วไป ร่าเริง ยิ้มแย้มแจ่มใส มีมนุษยสัมพันธ์ ฉันชอบฝึกชี่กง เล่นโยคะ ออกกำลังกาย แต่ฉันก็มีน้ำหนักตัวเกินอยู่ จะเรียกว่า “อ้วน” ก็ได้ ฉันชอบอ่านหนังสือ เพราะโหยหาช่วงเวลาใจสงบ ไม่ปรุงแต่ง จดจ่ออยู่กับตัวหนังสือ ถึงแม้ว่าฉันจะไม่ได้สงบทุกครั้งที่อ่านหนังสือก็ตาม ฉันชอบจิบกาแฟยามเช้ามาก จิบคู่กับอินทผลัม 4 เม็ด เนื่องจากได้ยินมาว่า การกินอินทผลัมกับกาแฟนั้นดีต่อสุขภาพ ช่วงเช้าเป็นช่วงที่ฉันรอคอย เพราะเป็นช่วงเวลาที่ฉันได้อยู่กับตัวเอง และสุขใจ ฉันชอบฟังพอดแคสต์ เกี่ยวกับการพัฒนาตนเอง ทั้งด้านจิตใจ และด้านอื่น ๆของชีวิต ฉันมักจะแบ่งเวลามาสวดมนต์ และเดินจงกรม ฉันมีครอบครัวที่ฉันรัก พ่อที่เป็นซูเปอร์แด๊ด แม่ที่เป็นห่วงฉัน ถึงแม้ว่าแม่มักทำอะไรที่ไม่ถูกใจฉันเป็นประจำ และก็มีน้องสาว ซึ่งก็ไม่ได้พูดจากันดี ๆ ตลอดเวลา แต่ฉันก็อุ่นใจที่มีเขาเหล่านั้นในชีวิต ฉันมีเพื่อนไม่มาก แต่ก็ยังดีกว่าไม่มีเพื่อน

ช่วงนี้เป็นช่วงที่ดีที่สุดช่วงหนึ่งในชีวิตของฉันก็ว่าได้ ฉันได้ทำงาน มีสังคม รู้สึกว่าชีวิตได้เติมเต็ม หลังจากที่ไม่เคยมีสังคมการทำงาน เพราะตั้งแต่เรียนจบ ฉันก็รับสอนภาษาอังกฤษอิสระมาโดยตลอด พอไปทำงาน ได้เจอเพื่อน ๆ ที่เข้าใจกัน ได้พูดจากัน ทานอาหารด้วยกัน ทำงานด้วยกัน ทำให้ชีวิตของฉันมีสีสันกว่าแต่ก่อน ทุกวันนี้ แทบไม่มีวันไหนเลย ที่ฉันไม่อยากไปทำงาน

ที่ฉันเขียนมาด้านบนทั้งหมดนั้น เป็นตัวตนของฉัน ฉันไม่ได้เริ่มต้นด้วยความเจ็บป่วย เพราะฉันเชื่อว่า “ความเจ็บป่วยเป็นเพียงส่วนหนึ่งในชีวิตของบุคคล ไม่ใช่เป็นทั้งหมดในชีวิตของบุคคลนั้น”

มาทำความรู้จักฉันในอีกด้านหนึ่งบ้าง

ฉันมีประสบการณ์ตรงกับโรคจิตเวช ป่วยครั้งแรกตอนอายุ 15 หมอวินิจฉัยว่าเป็นโรคจิตเภท ตอนนี้อายุ 35 ปีแล้ว รวมแล้วฉันก็ป่วยมาเป็นเวลา 20 ปี เกินครึ่งชีวิต ฉันผ่านช่วงเวลาแห่งความทุกข์มามาก ฉันแอดมิททั้งหมด 4 ครั้ง และแต่ละครั้ง “ไม่ธรรมดา” ฉันเหมือนอยู่บนโลกดาวอังคาร เพราะไม่ได้อยู่ในโลกแห่งความเป็นจริงอีกต่อไป ฉันผ่านการรักษาด้วยไฟฟ้ามาหลายครั้ง อยู่โรงพยาบาลครั้งละ 2-3 เดือน และกลับมาพักฟื้นต่อที่บ้านอีกนับปี หรือหลายปี ตอนฉันป่วย ผลกระทบไม่ได้มีเพียงตัวฉัน แต่ส่งผลถึงครอบครัวด้วย ใจของคนในครอบครัวก็ระส่ำระสาย

ฉันดิ้นรน ต่อสู้ กับความเจ็บป่วยของตนเองมาหลายช่วงของชีวิต เข้าออกโรงพยาบาลอยู่หลายครั้ง ฉันอยู่กับความทุกข์ ในแต่ละวันไม่มีความสุข ฉันทำอะไรไม่ได้มาก แต่ฉันก็ฝ่าฟัน จนกระทั่งเรียนจบปริญญา และทำงานในที่สุด ฉันสามารถยืดหยัดด้วยลำแข้งของตนเอง ด้วยเงินที่ฉันหามา

ด้วยความหวัง แม้มันจะริบหรี่ ประกอบกับโชคที่เข้าข้างฉัน บุคคลที่เข้ามาในชีวิตฉัน ทุกวันนี้ ฉันขอบคุณชีวิต ฉันชอบชีวิตตนเอง ฉันรักตนเอง ฉันมีความสุขตามอัตภาพ อยากตื่นนอนตอนเช้า ตั้งหน้าตั้งตารอคอยเวลาเช้าตรู่ เพื่อจะได้ดำเนินชีวิตในแบบที่ฉันต้องการ

วันนี้เราอาจมีความทุกข์ แต่อย่างไรก็ดี ขอให้เรายังคงมีความหวัง แม้เพียงเล็กน้อย ว่าเราจะ “ดีขี้น” และเราต้อง “ดีขึ้น” ได้ ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนที่กำลังอยู่ใน “ความทุกข์” ขอให้อดทน สักวันจะเป็นวันของเรา

บทความอื่นๆ ที่คุณอาจสนใจ